อยากขายของออนไลน์ต้องเริ่มอย่างไร
การขายของผ่านรูปแบบออนไลน์ในปัจจุบันนั้น ถือว่ามีเกิดขึ้นมามากมายตามสมัยนิยม เพราะเมื่อเริ่มที่จะมีคนขายดีจนสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ และสินค้าที่นำมาขายก็มีผู้คนสนใจซื้อหามาเป็นอย่างดี จึงทำให้เกิดเป็นความต้องการที่จะขายดูบ้างของใครหลายๆคน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน แล้วจะขายของออนไลน์อะไร ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องคิดถึงก่อน เพราะแต่ละคนมีแนวทางและความคิดสร้างสรรค์ในการหาของมาขายที่แตกต่างกัน
บางคนก็อาจจะมีสินค้าอยู่ในมือหรือเป็นเจ้าของสินค้านั้น ๆ มาอยู่แล้ว แต่บางคนก็ยังไม่มีสินค้าและยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าจะขายสินค้าประเภทไหนผ่านทางรูปแบบออนไลน์ดี สิ่งแรกที่ควรจะต้องทำคือการลองถามใจตัวเองดูก่อนว่ามีความถนัดในเรื่องใด บางคนก็เริ่มจากความชอบ จากเรื่องใกล้ตัว รู้ว่าควรที่จะต้องซื้อได้จากที่ไหน และที่กำลังนิยมอยู่ในตลาด ที่ไหนที่จะซื้อได้ในราคาถูก ที่มีความนิยมอยู่กี่ประเภท คือมีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองถนัด แล้วสามารถจะนำเอามาจับจุดให้นำเอาของสิ่งนั้นออกมาขายได้อย่างตรงจุด และรู้ว่าของที่ตัวเองจะขายนั้นอยู่ในกลุ่มใด เพื่อที่จะสามารถเอาของมาลงขายได้อย่างถูกกลุ่มอีกด้วย
อยากขายของออนไลน์ต้องมีความรู้ก่อนว่าจะขายอะไร สามารถหาต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่งหรือไม่ มีกำไรพอที่ทำได้หรือเปล่า แล้วสินค้าที่จะเอามาลงขายนี้มีความโดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ หรือมีความแปลกที่ไม่เหมือนใครหรือไม่ และถ้ามีหน้าเว็บไซต์ขายของเรียบร้อยแล้ว การส่งของให้ลูกค้านั้นมีความสะดวกในการส่งสินค้าแบบไหน ถ้าต้องส่งทางไปรษณีย์แล้วสินค้ามีน้ำหนักมากขนาดไหน เพราะต้องดูว่าค่าส่งมากเกินกว่าที่ลูกค้ารับไหวหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ผู้ที่ต้องการขายสินค้าออนไลน์จะต้องมีการคิดและจดบันทึกไว้เป็นอันดับต้นๆ และที่สำคัญคือตัวสินค้าผู้ขายจะต้องมีความรู้ ความชอบ หรือความถนัดที่มากพอจะเอาสินค้ามานำเสนอให้กับลูกค้าได้อย่างน่าสนใจและถูกต้อง เพราะข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องจะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งความน่าเชื่อถือนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด เมื่อมีสินค้าที่ดีก็ต้องเริ่มทำเว็บไซต์ที่จะสามารถกระจายสินค้าได้
การทำเว็บไซต์เพื่อขายของออนไลน์ในหลาย ๆ คนต้องมีความรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยาก เพราะลูกค้าไม่ได้เห็นของมาก่อน ทั้งยังไม่รู้ตัวตนของผู้ขายว่าเป็นใคร การตัดสินใจซื้อจึงเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก เรียกได้ว่าแทบจะสู้การขายตามร้านทั่วไปหรือร้านในตลาดนัดไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผู้ขายจึงต้องสร้างจุดสนใจที่มีมากกว่าและสามารถทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสิ่งที่เรากำลังเสนอขายนั้นน่าสนใจมากพอที่จะตัดสินใจซื้อได้ โดยการขายนั้นต้องมีการขายที่หลากหลายช่องทาง ซึ่งช่องทางที่น่าสนใจรูปแบบของสื่อสังคมขนาดใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นเหล่า Facebook, Instagram หรือ Twitter เป็นต้น สำหรับผู้ที่เริ่มใหม่ควรจะมีการโปรโมทสินค้าผ่านทางสื่อเหล่านี้ไปก่อนที่จะทำเว็บไซต์แบบสมบูรณ์แบบ ที่จะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นควรที่จะลองดูบริการเว็บไซต์ฟรีที่สามารถตกแต่งเองได้แบบง่ายๆ อย่าง Wordpress.com, Google Sites หรือ Blogger แล้วเขียนเนื้อหาในส่วนเฉพาะที่เป็นตัวสินค้าเท่านั้น ซึ่งก็จะลดภาระทางค่าใช้จ่ายลงได้ แต่ก็อาจจะมีข้อเสียตรงที่ปรับเปลี่ยนตกแต่งอะไรไม่ได้มากนัก แต่ผู้ใช้ไม่ต้องดูแลรักษาอะไรมากแต่ก็สามารถเอาไปโปรโมทต่อทางสื่อสังคมต่าง ๆ ได้เลยทันที
ถ้าต้องการขายของออนไลน์แบบเป็นเรื่องเป็นราวจนเป็นธุรกิจที่จริงจัง ที่ต้องการจะมีระบบอีคอมเมิร์ชร่วมด้วย ก็สามารถไปใช้บริการของเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ ที่มีรูปแบบร้านค้าอยู่แล้วก็จะง่ายต่อการลงสินค้า และการจัดระเบียบหรือตกแต่งร้านได้เองง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้จะตรงใจต่อพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการพึ่งพาเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดี และเมื่อเริ่มที่จะขายดีแล้วก็ค่อยขยับขยายจ่ายเงินเพื่อซื้อบริการเสริมต่างๆ เว็ปไซต์ที่แนะนำให้เริ่ม ก็มีlnwshop weloveshopping bentoweb shoppe ในภายหลัง ส่วนใน Facebook, Instagram Twitterหรือline นั้น จะเหมาะกับข้อมูลที่มีความเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง เช่น สินค้าตัวใหม่ โปรโมชั่นใหม่ หรือมีการรีวิว การแนะนำบอกต่อ ก็สามารถที่จะอัพทั้งภาพและวิดีโอผ่านทางเพจเหล่านี้ได้ ส่วนรายละเอียดเรื่องของการทำเว็บไซต์ที่ควรมีสำหรับการขายของออนไลน์ คือในส่วนของเกี่ยวกับเราหรือตัว About us ที่จะสามารถบอกได้ถึงสถานะของผู้ขาย การตรวจสอบสถานะการจัดส่งสินค้าที่ดึงมาจากไปรษณีย์ สินค้าที่จะขาย เนื้อหาวิธีการสั่งซื้อ วิธีการโอนเงิน เลขบัญชีเงินฝาก ที่จะต้องมีอย่างน้อย 4 ธนาคารเพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับลูกค้า พร้อมทั้งบอกเงื่อนในการซื้อขายที่จะลูกค้าควรรู้ บอกถึงช่องทางติดต่อที่ง่ายและสะดวก สุดท้ายคือแผนผังของเว็บไซต์
การทำเพจบน Facebook คนที่กำลังจะขายของก็ต้องเรียนรู้ เพราะจะช่วยในเรื่องของการโปรโมทสินค้าที่กำลังจะขายได้เป็นอย่างดี เมื่อมีสินค้าและทำแฟนเพจจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มทยอยลงรูปสินค้า แต่ในช่วงแรกพ่อค้า แม่ค้าก็อาจจะต้องมีความขยันในการอัพเดตรูปสินค้าและพยายามทำให้เพจเป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย แล้วรวบรวมความรู้หรือเทคนิคที่เกี่ยวกับการใช้สินค้าที่ขายอยู่มาโพสเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการเรียกลูกค้าที่สนใจในของแบบเดียวกับที่กำลังจะลงขาย โดยหาข้อมูลมาแชร์ผ่านเพจของตนเอง เพื่อให้เกิดการกด Like ที่แฟนเพจเยอะมากยิ่งขึ้น จากนั้นก็ลง URL ไว้ที่หน้าเพจ เมื่อมีคนที่สนใจต่อสินค้าที่ลงขายมากขึ้น การหา URL เพื่อที่จะเข้าดูทั้งข้อมูลสินค้าและราคามากยิ่งขึ้นอีกด้วย
สิ่งที่คนขายของออนไลน์ต้องมีคือความขยันในการอัพเดตสินค้าของตัวเอง การเก็บข้อมูล รายละเอียดของสินค้าที่ตัวเองขาย พร้อมแผนการโปรโมทที่สามารถทำได้ และความอดทนที่ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเริ่มแรกของสินค้าที่ไม่ได้มีฐานที่แข็งแรงมาตั้งแต่แรกนั้น ก็ต้องมีการเริ่มต้นใหม่เกือบทั้งหมด ความอดทนจึงเป็นเครื่องมือที่จะสามารถทำให้ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น และการทำทุกอย่างภายในเว็บไซต์ที่ควรจะทำในทุก ๆ วัน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสินค้า บางคนใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี ก็สามารถจะประสบความสำเร็จในการขายสินค้าแบบออนไลน์ได้อย่างสวยงามอีกด้วย ....แต่หากคุณเพียงแค่อยากแต่ไม่เริ่มทำหรือเรียนรู้ โอกาสที่จะทำให้คุณรวย หรือไม่ทันโอกาสครั้งสำคัญนี้ ก็จะหลุดลอยไป เปลี่ยนความอยากเป็นเป้าหมายและทุ่มเท โอกาสจะมาหาคุณเอง