เพราะไอเท็มเคาน์เตอร์แบรนด์มันแพงจะซื้อทั้งทีก็ต้องใช้ให้คุ้ม!!
สมัยนี้ถือว่าเราโชคดีค่ะ ไม่ต้องลองผิดลองถูกอะไรมาก เพราะมีรีวิวต่างๆ ในเน็ตพร้อมให้เราหาข้อมูลเรียบร้อยแล้ว แต่เปิด Google แล้วพิมพ์ไอเท็มที่ต้องการหาข้อมูล ก็เจะเจอแล้วจ้า
พอเราอ่านรีวิวแล้วเริ่มกระตุ้นกิเลสให้มากขึ้น เอ้ย! ช่วยให้เรามีข้อมูลมากขึ้น ก็ใจเย็นๆ ก่อนนะจ๊ะสาวๆ อย่าเพิ่งบุกเคาน์เตอร์ไปซื้อไซส์จริงมาลอง เพราะถึงมันจะดีกับคนอื่น แต่มันก็อาจจะไม่ดีกับเราด้วยจริงมั้ย? ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้เรามั่นใจว่าเราใช้ได้ดีจริงหรือเปล่าก็คือ “เครื่องสำอางเทสเตอร์“ค่ะ เพราะจะทำให้เราได้ลองใช้กับตัวเองจริงๆ
โดยปกติเราสามารถไปขอเทสเตอร์จากแบรนด์ต่างๆ ได้ เลยค่ะ แต่พูดกันตรงๆ ว่าหลายคนก็ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปขอหรอก เพราะเราเองก็ยังกล้าๆ กลัวๆ เลย 5555 ดังนั้นเราแนะนำให้ซื้อจากเว็บที่ไว้ใจได้จะดีกว่าค่ะ อย่างเว็บ Dropshoppingthai.com ของเราเองก็มีจำหน่ายเหมือนกันค่ะ
เมื่อได้เทสเตอร์มาแล้วแนะนำให้ใจเย็นๆ กันอีกซักนิดค่ะสาวๆ ลองเอาไอเท็มที่ได้มาทาบริเวณแขนและหลังใบหูก่อน เพื่อทดสอบว่าครีมนั้นแพ้หรือเปล่า โดยทาทิ้งไว้ประมาณ 1 วันค่ะ คือถ้าได้ครีมมาตอนเย็น ก็ทาครีมไปตอนก่อนนอน แล้วมาดูว่ามีตุ่มขึ้น หรือมีอาการคัน แสบหรือเปล่าค่ะ ถ้ามีอาการก็ต้องยอมแพ้ไป แต่ถ้าใช้แล้วผ่าน ก็มาลุยกันต่อ!
อดทนอดกลั้นมาตั้งนาน ถึงเวลาได้ลองทาครีมกันแล้วเธอ ขั้นตอนนี้ก็ลุยเลยค่ะ ทามันเข้าไปตามใจต้องการ มีเคล็ดลับในการทาโดยจะทดลองทาครีมตัวนี้ตัวเดียวเดี่ยวๆ ก่อนซัก 5-7 วันเพื่อดูผลและความรู้สึกว่าเป็นยังไง จากนั้นก็ลองทาคู่กับครีมที่ใช้ประจำตามปกติค่ะ ว่าใช้แล้วเป็นยังไง จนหมดขวดเทสเตอร์นั่นแหละ ซึ่งเอาตรงๆ เห็นเค้าขวดจิ๋วขนาดนี้ แต่ใช้แล้วคุ้มนะเธอ
เอาล่ะ! เมื่อใช้แล้วถูกใจ จะรอช้าทำไม ซื้อสิคะ ไม่ต้องรอแล้วว แต่! ถ้าขนาดปกติราคามันแรงไป สู้ราคาไม่ไหว ก็สามารถซื้อตัวเทสเตอร์มาใช้ได้เรื่อยๆ นะคะ ซึ่งเหมาะกับคนงบน้อยแต่อยากใช้ของเคาเตอร์แบรนด์ เพราะราคาไม่แรงจนเกินไป แต่ปริมาณที่ได้นั้นก็ต้องลดลงไปแลกกับราคาที่ถูกลงด้วย
เครื่องสำอางเทสเตอร์บางแบรนด์ให้ปริมาณที่ค่อนข้างเยอะค่ะ ซึ่งบางทีการที่เราซื้อเทสเตอร์มาหลายๆ ชิ้น คำนวณปริมาณแล้ว อาจจะคุ้มกว่าการซื้อไซส์จริงก็ได้ อย่างมาส์กตัวนึงขนาด 120 ml. ราคา 1,500 บาท แต่เทสเตอร์ ขนาด 50 ml. ราคา 300 บาท การซื้อเทสเตอร์ 3 กระปุก ทำให้เราได้มาส์กตั้ง 150 ml. ในราคา 900 บาทค่ะ แต่ก็จะไม่ได้ขวดสวยหรูเหมือนกับไซส์จริงน้า ดังนั้นใครไม่ซีเรียสเรื่องดีไซน์ขวด ก็จัดไปเลยจ้า