ตัวแทนจำหน่ายสินค้าผ่านระบบ Dropship หลาย ๆ ราย อาจจะกำลังทบทวนและสงสัยอยู่ว่าในภาวะที่การแข่งขันระหว่างร้านค้าออนไลน์สูงและมีผู้ให้บริการรายใหม่ ๆ เกิดขึ้นจำนวนมากในทุก ๆ วัน ผู้ประกอบการควรจะวางกลยุทธ์การตลาดอย่างไร ให้ร้านค้าออนไลน์ของตนยังเป็นที่น่าสนใจและมีผู้ใช้บริการเลือกเข้ามาซื้อสินค้าต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นอกจากการจัดโปรโมชั่นประจำเดือนหรือส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าประจำแล้ว เทคนิคในการโปรโมทร้านค้าออนไลน์ที่ผู้ประกอบการยุคดิจิตอลไม่ควรมองข้ามยังมีรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้ ร่วมด้วย เช่น
1. เช่าพื้นที่โฆษณาผ่านเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง: ตัวแทนจำหน่ายในระบบดรอปชิปสามารถเลือกเช่าพื้นที่โฆษณาบนหน้าเว็บไซด์อื่น ๆ ที่สามารถเรียกความสนใจจากลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ซึ่งการเลือกว่าจะเช่าพื้นที่โฆษณาบนหน้าเว็บไซด์ไหนดี ก็ไม่ต่างจากการเลือกว่าจะขึ้นป้ายโฆษณาบนบิลบอร์ดที่สี่แยกหรือบนทางด่วนดีนั่นแหละ เพราะผู้ประกอบการไม่สามารถพิจารณาพื้นที่โฆษณาจากราคาค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น แต่ยังต้องดูรายละเอียดด้วยว่าเว็บไซต์นั้น ๆ มีผู้เข้าชมจำนวนเท่าไหร่ต่อวัน, ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพศชายหรือเพศหญิงมากกว่ากัน และอายุเฉลี่ยของผู้เข้าชมอยู่ในช่วงวัยไหน ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ นี้ มีความสำคัญต่อการโปรโมทผ่านช่องทางนี้เป็นอย่างมาก สมมุติว่าอายุของผู้เข้าชมยังเป็นกลุ่มเด็กที่กำลังซื้อไม่สูงก็อาจจะต้องเลือกดูจากเว็บไซด์อื่นดีกว่า ถึงจะเหมาะกับสินค้าอย่างอุปกรณ์เสริมมือถือ เป็นต้น และที่สำคัญ ตำแหน่งของพื้นที่โฆษณาที่ทางเว็บไซด์นั้น ๆ เสนอมาให้นั้นดีหรือไม่ โดดเด่นและสะดุดตาผู้เข้าชมมากสุดหรือไม่ก็เป็นรายละเอียดที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน
2. เขียนบทความออนไลน์ดึงความสนใจตามหลัก SEO: วิธีการโปรโมทเว็บไซด์ด้วยบทความออนไลน์ตามหลักการเขียนแบบ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นกลยุทธ์การทำตลาดที่ตัวแทนจำหน่ายผ่านระบบดรอปชิปควรให้ความสำคัญไม่น้อย เพราะไม่เพียงจะเรียกความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เท่านั้น แต่บทความออนไลน์ SEO ยังช่วยดันอันดับเว็บไซด์ของผู้ประกอบการให้อยู่เป็นลำดับต้น ๆ ในการค้นหาผ่าน search engine ต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งบทความออนไลน์ดังกล่าว ผู้ประกอบการสามารถเขียนด้วยตนเอง หรือจะจ้างนักเขียนบทความออนไลน์มาช่วยก็ได้เช่นกัน โดยอาจจะเริ่มจากนำคีย์คำค้นหาที่สะท้อนถึงสินค้าของผู้ประกอบการมาใช้ก่อน หรือไม่ก็เลือกหัวข้อบทความจากคอมเม้นท์ต่าง ๆ ที่ลูกค้ามักจะสอบถาม ซึ่งจะทำให้บทความออนไลน์นั้น ๆ ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น และแน่นอนว่าหากบทความออนไลน์นั้น ๆ มีประโยชน์ ผู้อ่านและกลุ่มลูกค้าก็จะกดเข้ามาดูรายละเอียดสินค้าในหน้าเว็บไซด์ของผู้ประกอบการมากขึ้นเอง เท่ากับได้โปรโมทร้านค้าออนไลน์ และยังได้แบรนด์อิมเมจหรือภาพลักษณ์ของร้านว่าเป็นกูรูผู้รู้จักสินค้ากลุ่มนั้น ๆ ดี อีกด้วย
3. แลกลิงค์กับเว็บไซต์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ: นับเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญในการโปรโมทร้านค้าออนไลน์ที่ตัวแทนจำหน่ายในระบบดรอปชิปจำเป็นต้องศึกษา เพราะไม่เพียงการแลกลิงค์ไว้กับเว็บไซด์อื่น ๆ จะมีประสิทธิภาพสูงที่สุดแล้ว ยิ่งจำนวนลิงค์ที่แลกกันมีมากขึ้นเท่าไหร่ ประโยชน์ที่ทางตัวแทนขายจะได้ผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ของตนก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญ ในการแลกลิงค์แต่ละครั้ง เมื่อมีผู้เข้าชมที่หน้าเว็บไซต์ของผู้ประกอบการ คะแนนจากแบ็คลิงค์ก็จะช่วยจัดอันดับเว็บนั้น ๆ ให้สามารถค้นหาผ่าน search engine อย่าง google, yahoo และ Bing ได้ง่ายกว่าเดิม คล้าย ๆ กับหลักในการทำบทความออนไลน์แบบ SEO นั่นเอง นอกจากนี้ การแลกลิงค์ยังช่วยทำให้เว็บไซด์ออนไลน์นั้น ๆ มี Trust Ranks ที่สูงมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าลำดับ Alexa ของเว็บไซด์ดังกล่าวก็จะไต่ขึ้นสูงมากไปด้วยตามจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซด์ที่เพิ่มขึ้น
4. กระตุ้นความสนใจ ด้วยคลิปวิดีโอผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ : ปัจจุบัน เทคโนโลยีสื่อโซเชียลมีเดีย ก้าวไกลไปมาก การอัพโหลดคลิปวิดีโอสามารถทำได้ในเวลาสั้น ๆ และสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์สามารถแชร์คลิปวิดีโอสั้น ๆ เพื่อแนะนำสินค้ามาใหม่, สาธิตวิธีการใช้งานอุปกรณ์เสริมมือถือแบบต่าง ๆ หรือจะเลือกแชร์คลิปเตือนภัยการใช้งานอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานก็ได้เช่นกัน เมื่อโพสต์ดังกล่าวเป็นประโยชน์ ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าประจำก็จะกดแชร์ต่อและเป็นการโปรโมทเว็บไซด์ของผู้ประกอบการไปในตัว นับเป็นอีกหนึ่งวิธีโปรโมทที่ต้นทุนต่ำแต่ได้ประโยชน์คุ้มค่า
5. ใช้ประโยชน์จาก Google Adwords: ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ในระบบดรอปชิป สามารถโปรโมทเว็บไซด์ของตนผ่านการลงโฆษณาในหน้าการค้นหาผ่าน Google ได้เช่นกัน แต่วิธีนี้ออกจะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียต่อการคลิ๊กค้นหาแต่ละครั้งของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งหากเทียบกับผลตอบรับที่สูงมาก ก็ต้องยอมรับว่าเป็นการลงทุนที่แพงแต่คุ้มค่าไม่น้อยเลยทีเดียว
6. เพิ่มฟังก์ชั่น Like และ Share บนหน้ารายละเอียดสินค้าของเว็บไซด์ออนไลน์: อีกหนึ่งสูตรการโปรโมทร้านค้าออนไลน์ที่ตัวแทนจำหน่ายในระบบดรอปชิป จำเป็นต้องรู้และนำไปประยุกต์ใช้กับเว็บไซด์ของตนก็คือ การเพิ่มปุ่มกด like และ share ลงในหน้าเว็บที่เกี่ยวกับรายละเอียดสินค้า เพราะเป็นไปได้ว่าสินค้าบางตัวที่โพสต์ขายไว้ อาจจะถูกพบเห็นโดยผู้ที่ไม่ได้จะซื้อสินค้านั้น ๆ ไว้ใช้เอง แต่เมื่อเขาเห็นและอยากบอกต่อเพื่อนที่มองหาสินค้าตัวนั้น ๆ อยู่ เขาก็จะได้เลือกกด like หรือ แชร์ไปให้เพื่อนของเขาดู ทีนี้ ก็เท่ากับผู้ประกอบการได้โปรโมททั้งสินค้านั้น ๆ และหน้าเว็บไซด์ออนไลน์ของตนออกไปยังสาธารณะและกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ตามสื่อโซเชียลมีเดียอื่น ๆ จึงถือได้ว่าฟังก์ชั่นไลค์และแชร์นี้เป็นหนึ่งในกลไกการตลาดที่สำคัญในยุคสื่อดิจิตอลแบบนี้จริง ๆ
อย่างไรก็ดี ในช่วงเริ่มต้นของการทำแฟนเพจในสื่อโซเชียลมีเดีย อย่างเช่น Facebook นั้น ตัวแทนจำหน่ายผ่านระบบ Dropship ควรเลือกประเภทของธุรกิจให้ใกล้เคียงกับสินค้าของตนเองมากที่สุด เพราะเงื่อนไขในการค้นหาใน Facebook จะประมวลผลแตกต่างกันออกไป หากเลือกผิดกลุ่ม ผิดหมวด ก็อาจจะส่งผลต่อการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายได้ ที่สำคัญ หากร้านค้าออนไลน์ไหนที่เพิ่งเปิดกิจการใหม่ ๆ ก็น่าจะลองคิดโปรโมชั่นเพิ่มยอดไลค์ออกมากระตุ้นความสนใจของลูกค้ากันสักหน่อย เพราะอันดับในการโปรโมทเพจผ่าน Facebook มักจะเริ่มจากเพจที่มียอดจำนวนไลค์มาก ๆ ก่อนเสมอ