ในยุคสังคมโลกดิจิตอลช่องทางการตลาดรูปแบบออนไลน์ ช่วยให้ผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจของตนเองมีโอกาสสร้างรายได้ได้สะดวกและคล่องตัวมากขึ้น หากความต้องการของคุณ คือ การลงทุนเวลาโดยไม่ต้องสต็อกสินค้า, ไม่ต้องหาทำเลเช่าขายของ, ไม่ต้องวุ่นวายกับการแพ็คหรือส่งของให้ลูกค้า แต่ยังสามารถหากำไรจากงานขายได้อย่างต่อเนื่อง การสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย ในระบบ Dropship น่าจะเป็นคำตอบที่ “ใช่” และโดนใจคุณไปแบบเต็ม ๆ เพราะเป็นธุรกิจออนไลน์รูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องลงทุนสักบาท แต่สำคัญว่าคุณจะต้องมีหน้าเว็บไซต์เป็นของตนเอง เพื่อที่จะจัดวางสินค้าต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ให้ผู้คนเข้ามาเลือกซื้อได้นั่นเอง คล้าย ๆ กับคุณมีห้องแถวที่พร้อมวางสินค้าของผู้ผลิตอื่น ๆ ได้ทันที ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่คุณควรทำความเข้าใจถึงบทบาทของตัวแทนจำหน่ายหรือเอเย่นต์ในภาคธุรกิจดรอปชิปนี้ ยังมีรายละเอียดต่าง ๆ ที่น่าสนใจดังนี้
1. ตัวแทนขายหรือเอเย่นต์ธุรกิจในระบบ Dropship เริ่มต้นอย่างไร: ธุรกิจดรอปชิปลักษณะนี้ คือ การที่ตัวแทนจำหน่าย หรือ เอเย่นต์ขายสินค้าทำหน้าที่เป็นเหมือนพ่อค้าคนกลางบนโลกออนไลน์ โดยกินส่วนต่างของกำไรสินค้าในการขายของแต่ละครั้งผ่านหน้าเว็บไซต์ของตนเอง ซึ่งขั้นตอนในการเริ่มต้นธุรกิจตัวแทนในระบบดรอปชิป สามารถดำเนินการได้ตาม 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
o ติดต่อหาสินค้าจากผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการดรอปชิป: เอเย่นต์สามารถติดต่อกับทางผู้ผลิตสินค้าที่สนใจได้โดยตรงหรืออาจจะเลือกติดต่อกับผู้ให้บริการดรอปชิปอื่น ๆ ซึ่งลงประกาศไว้ในเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Alibaba.com, dhgate.com และ lightinthebox.com หรือบ้างก็ลงประกาศรับสมัครเอเย่นต์กันทาง search engine อย่าง Google และในเว็บบอร์ดของคนไทยหลาย ๆ แห่งก็เป็นอีกช่องทางเริ่มต้นธุรกิจได้ไม่ยาก
o ตกลงราคาขายและขออนุญาตใช้ภาพสินค้าเพื่อจำหน่าย: เมื่อผู้สนใจพบผู้ผลิตสินค้าประเภทที่ต้องการก็สามารถติดต่อไปยังผู้ผลิตรายนั้นและเมื่อได้รับข้อเสนอราคาส่งที่ลงตัวจากทางผู้ผลิตแล้ว เอเย่นต์ก็จะได้สิทธิให้ใช้ภาพสินค้าของทางผู้ผลิตในการเสนอขายบนสื่อออนไลน์ได้
o ตั้งราคาขายได้เอง หมดกังวลเรื่องสต็อกสินค้าและการจัดส่ง: ทั้งนี้ เอเย่นต์สามารถเลือกตั้งราคาขายได้เองว่าจะบวกกำไรจากราคาส่งเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อมีลูกค้าสนใจสินค้าตัวไหนบนหน้าเพจออนไลน์ของตน เอเย่นต์ก็เพียงแจ้งกลับไปยังผู้ผลิต หลังจากนั้นผู้ผลิตจะทำการแพ็คสินค้าและส่งพัสดุตรงไปยังที่อยู่ของลูกค้าทันที เอเย่นต์ในระบบดรอปชิปจึงไม่ต้องมานั่งปวดหัวอะไรกับการสต็อกหรือจัดแพ็คตลอดจนส่งมอบสินค้าเลย ในขณะที่ยังสามารถกินส่วนต่างของกำไรไปได้เต็ม ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือ เอเย่นต์ในธุรกิจดรอปชิปก็เหมือนกับพ่อค้าคนกลางในโลกออนไลน์นั่นเอง
2. รูปแบบธุรกิจดรอปชิปมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้างที่ควรศึกษาไว้ก่อน: ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจรูปแบบไหน ๆ ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียในการทำตลาดแตกต่างกันไป ดังนั้น ผู้ที่สนใจทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จจึงควรศึกษากลไกตลาดและทำความเข้าใจรูปแบบของธุรกิจดรอปชิปกันให้ดีก่อน เพื่อที่จะได้สามารถสานต่อกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
o จุดเด่นของโครงสร้างธุรกิจแบบดรอปชิปที่เอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบการทั้ง 2 ฝ่าย: นอกจากงานตัวแทนขายในระบบดรอปชิปจะมีจุดเด่นที่ช่วยให้ผู้สนใจไม่จำเป็นต้องวางเงินลงทุนในการสต็อกสินค้า, หมดความยุ่งยากในการจัดส่งสินค้าและยังไม่ต้องเสี่ยงเรื่องเงินทุนใด ๆ แล้ว ในทางกลับกันฝั่งของผู้ผลิตสินค้าเองก็ได้ประโยชน์จากช่องทางการขายที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องจ้างพนักงานขาย, ไม่ต้องเสียเงินค่าสวัสดิการและไม่ต้องอัดฉีดค่าคอมมิชชั่นเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่กลับได้ยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปแบบการทำธุรกิจดรอปชิปเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ win-win ทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแท้จริง
o เสริมจุดขายที่โดดเด่นของตัวแทนในระบบดรอปชิปด้วยความหลากหลายและคุณภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่อง: ต้องยอมรับว่าขีดจำกัดของตัวแทนขายสินค้าหรือเอเย่นต์ในงานธุรกิจดรอบชิปลักษณะนี้ก็คือ ตัวเอเย่นต์เองแทบจะไม่ได้เห็นสินค้าตัวจริงเลยสักนิด ทำให้ตัวแทนขายบางคนไม่สามารถอธิบายคุณสมบัติของสินค้าให้ลูกค้าเข้าใจได้อย่างชัดเจน, ตัวแทนขายไม่ได้สต็อกสินค้าไว้เอง ทำให้ไม่สามารถตอบกลับไปยังลูกค้าได้ว่าสินค้าจะพร้อมจัดส่งได้เมื่อไหร่ต้องรอถามผู้ผลิตก่อน และธุรกิจดรอปชิปเป็นงานที่คู่แข่งสามารถเข้ามาร่วมในเกม ราคาได้ง่ายมาก ๆ ตัวแทนขายนะบบดรอปชิปจึงจำเป็นต้องแข่งขันกันในด้านคุณภาพและความหลากหลายของสินค้าเป็นสำคัญ ดังนั้น เอเย่นต์ในระบบดรอปชิปจึงควรเลือกผู้ให้บริการหรือผู้ผลิตสินค้า จากกลุ่มงานที่มีความน่าเชื่อถือบวกกับรู้จักเลือกประเภทสินค้าที่มีความนิยมสูง, ขายคล่องและศึกษาคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ได้ไม่ยาก อย่างเช่น อุปกรณ์เสริมมือถือที่เป็นสินค้าขายดีที่สุดในยุคดิจิตอลนี้และตลาดมีความต้องการในตัวของมันเองอยู่แล้ว
3. เลือกประเภทสินค้าในระบบ Dropship อย่างไรดี: บ่อยครั้งที่ผู้สนใจมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจของตนเอง แต่มาตกม้าตายตอนเลือกประเภทสินค้าที่จะวางขาย เพราะไม่รู้ว่าสินค้ากลุ่มไหนที่ตลาดมีความต้องการซื้อหรือสินค้าตัวไหนที่ไม่มีวันตกเทรนด์แน่นอน ซึ่งการมองตลาดการค้าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง โดยอาจจะเลือกจากวิธีง่าย ๆ เช่น เลือกสินค้าประเภทที่ผู้ซื้อไม่มีทางหาได้ในตลาดออฟไลน์แน่นอน, สินค้าที่มีอายุการใช้งานนาน ๆ หน่อย หรือไม่ก็สินค้าที่คุณสามารถกำหนดสัดส่วนของกำไรได้มากกว่าปกติ ซึ่งก็คือจุดเด่นของงานตัวแทนในระบบดรอปชิปนั่นเอง
อย่างไรก็ดี หากผู้สนใจถนัดในการเลือกทำธุรกิจสินค้ากลุ่มแฟชั่นก็ใช่ว่าจะตามเทรนด์นิยมไม่ได้ เพราะสินค้ากลุ่มนี้ตลาดมีความต้องการอยู่ในตัวแล้ว คือ จัดมาขายเมื่อไหร่ ลูกค้าก็เฮมาช้อปเมื่อนั้น แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการตามเทรนด์แฟชั่นนิดหน่อย เพราะบางครั้งเมื่อคู่แข่งลงมาในสนามพร้อม ๆ เรามากขึ้น ทุกร้านจะเริ่มลดราคาสินค้าลง ทำให้ผู้ขายตกม้าตายขาดทุนกันเป็นแถว ๆ เข้าทำนองเดียวกับอะคูเลเล่หรือตุ๊กตาบายด์ที่เป็นกระแสระยะหนึ่งแล้วก็หายไป หากไม่อยากเสี่ยงในเกมลงทุนธุรกิจ การเลือกเป็นตัวแทนจำหน่าย ในระบบ Dropship ก็เป็นคำตอบที่ “ใช่” และไม่เสียหายถ้าจะลองลุยสักครั้ง จริงไหม